ตามล่าใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 2 – เมืองเกียวโต
วันนี้เราจะไปเที่ยวเมืองเกียวโตกันครับ เมืองนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สำคัญมากมาย แต่ที่น่าทึ่งก็คือความทันสมัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองอื่นเลย ทุกอย่างถูกนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัวจนเป็นเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องมาเยือนสักครั้งนึง
แพลนวันนี้ของเราก็คือไปนั่งรถไฟซากาโน่ แวะศาลเจ้าโนโนมิยะ เดินเล่นป่าไผ่ ชมใบไม้เปลี่ยนสีวัดเทนริวจิ ใบไม้เปลี่ยนสีวัดโทฟุคุจิ แล้วไปจบที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ พวกผมทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยก็ออกเดินทางจากสถานี Osaka ไปยังสถานี Kyoto ใช้เวลา 30 นาที แล้วต่อรถไฟไปลงสถานี Umahori ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของรถไฟซากาโน่ คาดเดากันว่าที่นี่คนจะน้อยกว่าสถานีต้นทาง แต่คิดผิดมหันต์เพราะคนเยอะมาก กว่าผมจะได้ตั๋วมาก็เป็นรอบ 11.35 น. เอาล่ะสิ นี่เพิ่งจะ 8.00 น. เอง ส่วนใครที่คิดจะมาซื้อตั๋วที่ต้นทางบอกเลยว่าเลวร้ายกว่าปลายทางมากๆ พวกผมเลยปรับแผนโดยการนั่งรถไฟ JR ย้อนไปลงสถานี Saga-Arashiyama เพื่อไปศาลเจ้าโนโนมิยะและไปชมป่าไผ่กันก่อน ตามมากันเลยครับ
ศาลเจ้าโนโนมิยะ (Nonomiya Shrine)
เป็นศาลเจ้าที่ผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาขอพรเรื่องความรัก เนื่องด้วยวรรณกรรมอันเลื่องชื่อ “เกนจิโมโนตาการิ” ซึ่งถือเป็นนิยายเรื่องแรกของโลกมีการเขียนถึงศาลเจ้าแห่งนี้จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง พวกผมไม่รอช้าเข้าไหว้ขอพรและเลือกซื้อเครื่องรางความรักกันด้วยครับ
ต่อจากศาลเจ้าเราก็จะไปเดินป่าไผ่กันต่อ แต่เดินเข้าไปได้นิดเดียวไม่ทันจะได้เจอป่าไผ่สวยๆ ก็ต้องรีบกลับออกมาเพราะต้องเผื่อเวลาไปขึ้นรถไฟซากาโน่กันที่สถานี Kameoka Torokko หรือสถานี JR Umahori ฮ่าๆ ดูวุ่นวายจริงๆ แต่เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป… ลุย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ 3 – รถไฟซากาโน่ (Sagano Train)
รถไฟชมวิวซากาโน่ หรือรถไฟสายโรแมนติก เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่จะลัดเลาะไปยังริมผาเลียบตามแม่น้ำ นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวธรรมชาติสองข้างทาง และยังสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นเรียงรายได้อีกด้วย โดยพวกผมเลือกนั่งแค่เที่ยวเดียว แล้วว่าจะลงไปชมป่าไผ่ต่อ แต่คนมันเยอะมากๆ จึงต้องขอบายป่าไผ่ไปอย่างน่าเสียดาย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ 4 – วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple)
วัดเทนริวจิเป็นวัดเซนอันดับหนึ่งที่ต้องมาชม เพราะที่นี่มีใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งบริเวณ เราสามารถเดินชมได้ฟรีด้านนอก หรือจะจ่ายเงินเพื่อเข้าไปชมสวนสไตล์เซนด้านในด้วยก็ได้ พวกผมเลือกชมกันแค่ด้านนอกเพราะแค่นี้ก็ถ่ายรูปกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ 5 – วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
วัดโทฟุคุจิเป็นวัดที่ต้องห้ามพลาดอีกแห่งสำหรับคนรักการชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 2,000 ต้น เรียกว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่สีสันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี และเพื่อนๆ อย่าลืมไปเดินที่สะพาน Tsutenkyo ด้วยนะครับ จะทำให้เรารู้ว่าสวรรค์แห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีนั้นเป็นเช่นไร
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi-Inari Shrine)
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ หรือศาลเจ้าจิ้งจอก ที่นี่เราจะได้เจอเสาโทริอิสีแดง นับพันนับหมื่นต้นเรียงรายล้อมรอบภูเขา ซึ่งถ้าเราจะเดินให้ครบทุกเสาจะต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แนะนำว่าเดินแค่ 1 กิโลเมตรแรกก็พอครับ ด้านในก็เหมือนๆ กัน พวกผมมาที่นี่ก็เกือบจะมืดแล้ว เลยถ่ายรูปกันได้แค่แป๊บเดียวแสงก็หมด
จากนั้นก็รีบเดินทางกลับไปยังโอซาก้า ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง หิวก็หิวแต่วันนี้เราจะไม่พลาด ตั้งพิกัดตรงดิ่งไปยังร้านเนื้อย่าง Fufutei พวกผมสั่งจัดเต็มคนละ 3,218 เยน ทนหิวต่อไปไม่ไหวแล้ว เพื่อนๆ มาทานด้วยกันเลยคร้าบ
มื้อนี้เรียกว่าอิ่มท้องกันสุดๆ แฮปปี้กันถ้วนหน้า ที่เหลือก็แค่ลากตัวเองกลับไปยังที่พักให้ได้ ไปถึงก็หลับเป็นตายอีกวัน รีบนอนเก็บแรงดีกว่าเพราะวันพรุ่งนี้เราต้องเปลี่ยนเมืองกันแล้ว
ติดตามตอนที่ 3 ต่อที่นี่ ได้เลยครับ
ตามล่าใบไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 3 – คาวาคุจิโกะ
Facebook Comments