บุรีรัมย์ กับแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่มีจังหวัดไหนเหมือน
ทริปนี้หาสมาชิกไม่ยาก แค่บอกว่าจะมาบุรีรัมย์เท่านั้นแหละ ก็ได้สมาชิกมา 4 คนเรียบร้อย แพลนไปชมวัด เขา ปราสาท และสนาม เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน นอนโรงแรมธีมฟุตบอลซึ่งไม่เหมือนใครอีก เอาล่ะแพ็คกระเป๋าเสร็จหรือยังนะ ถ้าเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลยครับ
ทริปนี้พวกผมมุ่งหน้าไปทางเหนือด้วยถนนพหลโยธิน ต่อด้วยถนนหลวงหมายเลข 2 ผ่านจังหวัดสระบุรี ต่อด้วยถนนหลวงหมายเลข 24 ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ใช้เวลาจากกรุงเทพฯ ทั้งหมด 4 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงจังหวัดบุรีรัมย์
1. วัดเขาอังคาร
สถานที่ผมจะพาไปแห่งแรก ก็คือวัดเขาอังคาร วัดนี้สร้างบนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีความเก่าแก่มาก คาดว่าสร้างในสมัยเดียวกับปราสาทหินพนมรุ้งเลยทีเดียว ภายในโบถส์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และอธิบายเรื่องราวต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษด้วย
2. ปราสาทพนมรุ้ง
สถานที่ต่อไปก็คือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทนี้ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับสนิทอีกแล้ว สูงประมาณ 350 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สถาปัตยกรรมแบบขอม มีจุดเด่นคือ ทุกวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน ของทุกปี เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น จะส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน และทุกวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี เมื่อดวงอาทิตย์ตก จะส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน เช่นกัน
3. ปราสาทเมืองต่ำ
ถัดไปอีก 8 กิโลเมตร ก็จะเจอปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทนี้ไม่ได้อยู่บนภูเขาเหมือนกับปราสาทพนมรุ้ง แต่ตั้งอยู่บนพื้นราบแทน จึงทำให้ได้ชื่อว่าปราสาทเมืองต่ำ จุดเด่นของที่นี่เราจะเห็นว่ามีสระน้ำ 4 สระ ล้อมรอบระเบียงรูปตัว L มีการสลักพญานาครอบสระ ที่มุมสระสลักเป็นพญานาค 5 เศียร
4. โรงแรม อมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นี่ก็บ่ายกว่าแล้วพวกผมจึงตัดสินใจไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนล่ะกัน จะได้เอาข้าวของไปเก็บให้เรียบร้อย คืนนี้พวกผมจะพักกันที่โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โรงแรมแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ตกแต่งด้วยธีมฟุตบอลทั้งโรงแรมไม่เว้นแม้กระทั่งห้องพัก ใครที่ชอบฟุตบอลหรือเป็นแฟนบอลของที่นี่จะรู้สึกฟินแบบผมมากๆ ครับ
5. โรงแรม Bric Box
เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อย ก็ไปส่งสมาชิกอีก 2 คน ที่ยืนยันว่าจะนอนโรงแรม Bric Box จุดเด่นก็คือสามารถมองเห็นการแข่งขันรถแข่งได้ทั่วทั้งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เลยทีเดียว เรียกว่าใครที่ชอบดูแข่งรถแบบไม่พลาดทุกวินาทีต้องเลือกพักที่นี่อย่างแน่นอนครับ
6. ถนนเซราะกราว
เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อย ก็หาแพลนกันต่อว่าจะไปหาอะไรทานที่ไหนดี ก็มาได้ที่ฝากท้องที่ถนนเซาะกราว ซึ่งเป็นถนนคนเดินถนนที่มีชื่อเสียงของที่นี่ มีของขายหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหาร น้ำดื่ม เครื่องประดับ สมุนไพร เสื้อผ้า ฯลฯ และยังมีการละเล่น แสดงศิลปวัฒนธรรมให้ชมผลัดเปลี่ยนกันไป เมื่ออิ่มท้องเรียบร้อยแล้วก็กลับโรงแรม เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อไปครับ
7. เขากระโดง
ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำแต่งตัว รับประทานอาหารของโรงแรมกันเรียบร้อยก็เช็คเอาท์กันเลย สถานที่ต่อไปของเราก็คือ เขากระโดง ใจจริงก็อยากจะเดินกันขึ้นไปหรอกนะ แต่เนื่องด้วยทริปนี้มีระยะเวลาจำกัด จึงขับรถขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟเลย ข้างบนยังมีพระสุภัทรบพิตรองค์ใหญ่มาก ที่นี่มีจุดชมวิวที่มองเห็นอ่างเก็บน้ำเขากระโดงอีกด้วย เรียกว่ามีอะไรให้ทำเยอะแยะเลย ทางขึ้นก็ทำดีปลอดภัยสามารถขับรถยนต์ขึ้นได้สบายครับ
8. ช่องสายตะกู ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
จากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังช่องสายตะกู ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไปแวะชมตลาดฝั่งกัมพูชาว่าเป็นยังไง การผ่านด่านก็ง่ายมากเพียงใช้บัตรประชาชน 1 ใบแค่นั้นก็สามารถผ่านด่านออกไปยังประเทศกัมพูชาได้เลย แต่ผมไม่แนะนำให้เพื่อนๆ มานะครับ เพราะไกลและเสียเวลาอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเราไปหาที่เที่ยวในบุรีรัมย์กันต่อดีกว่า
9. ศาลหลักเมือง
ที่ต่อไปก็คือ ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ ที่มีจุดเด่นคือ มีการนำสถาปัตยกรรมปราสาทพนมรุ้งมาครอบเสาหลักเมือง ภายในเปิดให้คนเข้าไปสักการะตั้งแต่ 6.00-17.00 น. บริเวณติดกันก็มีวัดกลางพระอารามหลวงด้วย อย่าลืมเข้าไปไหว้พระกันนะครับ
10. พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ที่ต่อไปนี่สำคัญมากๆ พวกเราต้องมาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือ ช้างทรง ร.1 สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์นั่นเอง การจะข้ามมาถ่ายรูป ณ กลางวงเวียนต้องระวังรถให้ดีนะครับเพราะไม่มีทางข้ามเลย
11. Buriram Castle
สถานที่ต่อไปก็คือ Buriram Castle เป็น Community Mall ที่มีร้านค้ามากมายให้เราได้ช็อปปิ้งกันอย่างจุใจ ที่นี่มีจุดเด่นก็คือ มหาศิวะลึงค์ ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ยังมีปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง สวนตะบองเพชร และสวนศิวะ 12 ให้ได้เดินชมกันเพลินๆ แต่พวกผมแค่มาเดินเล่นเพื่อที่จะไปต่อยังสนาม i-Mobile Stadium หรือ Thunder Castle Stadium ครับ
12. Thunder Castle Stadium
สถานที่ต่อไปก็คือ Highlight ที่ผมรอคอย สนามฟุตบอล Thunder Castle หรือปราสาทสายฟ้า ได้มาเห็นกับตามันช่างอลังการมากจริงๆ สามารถจุได้ถึง 32,600 ที่นั่ง ผมก็เดินถ่ายรูปกันเพลินเลยทีเดียว
เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกินนี่ก็เย็นแล้ว ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับได้แล้วสินะ หวังว่าเพื่อนๆ จะประทับใจไปกับบุรีรัมย์ จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครแห่งนี้ ครั้งหน้าพวกผมจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมแพ็คกระเป๋าแล้วไปเที่ยวด้วยกันนะคร้าบ
ค่าใช้จ่าย
- โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ Bric Box จำนวน 1 คืน ทั้งหมด 3,400/4 คน = 850 บาท
- ค่าเข้าชมปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ คนละ 30 บาท
- ค่ารถรับส่ง ค่าผ่านแดนไทย-กัมพูชา คนละ 50 บาท
- ค่าน้ำมัน 2,040/4 คน = 510 บาท
- ค่าอาหาร 3 มื้อ 1,000/4 คน = 250 บาท
รวมทั้งหมด 1,650 บาท/คน
Facebook Comments