อาบทะเลหมอกสุดฟิน เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า

อยากไปทะเลจังเลย แต่นี่ก็หน้าฝน มรสุมก็เยอะ แดดก็ไม่มี ข้อความขึ้นรัวๆ ไปไหนดี ทริปไหนต่อดี และแล้วพระเอกขี่ม้าขาวก็แทรกมาว่างั้นไปเพชรบูรณ์ไหม ไปทริปเดียวได้ทั้งเขาค้อ ภูทับเบิก และภูหินร่องกล้าเลย ตอนนี้หน้าฝนอาจจะได้เจอทะเลหมอกอลังการมากๆ เลยนะ และแล้วก็เป็นไปตามคาดหมาย แพลนล่วงหน้ากันไม่เกิน 1 เดือน ก็ได้สมาชิก 9 คน ที่พักและรถตู้พร้อมคนขับที่จะพาพวกเราไปอาบหมอก 3 วัน 2 คืน เรียบร้อย แพ็คกระเป๋าไปกันเลยคร้าบ

นัดแนะพี่คนขับรถตู้ให้มารับตามถนนวิภาวดี สมาชิกพร้อมคนพร้อมก็ล้อหมุนทันที ใช้เวลา 5 ชม. ก็ไปถึงฐานอิทธิ เป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืน ในปี พ.ศ.2524 ภายในมีเครื่องบินรบ ปืนใหญ่ รถลำเลียง เป็นต้น พร้อมประวัติอธิบายไว้อย่างละเอียด พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท

ไปแวะอนุสรณ์สถานเขาค้อกันแป๊บนึงครับ หมอกเริ่มทยอยมาให้เราอาบกันแล้วครับ ถ่ายรูปไปหมอกก็กลืนอนุสรณ์สถานแทบมองไม่เห็น ที่นี่เคยเป็นสมรภูมิรบจากผู้ที่มีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างจนกระทั่งสถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลายลง จึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ เพื่อเป็นที่ระลึกการเสียสละของผู้กล้าหาญ 1,174 ชีวิต และเป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้พึงระลึกไว้

เราแวะไปต่อที่รีสอร์ทแทนรักทะเลหมอก ไม่ได้มาพักที่นี่หรอกนะครับ ขอแวะเข้ามาชมรีสอร์ทและหาอะไรทานกันนิดๆ หน่อยๆ ที่นี่ขึ้นชื่อมากเรื่องภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีไม้ดอกนานาพันธุ์ที่เบ่งบานรับอากาศเย็นสุดสดชื่น

จากนั้นก็ไปต่อที่พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ไหว้พระกันขอให้ทริปนี้ราบรื่นปลอดภัย ได้อาบทะเลหมอกสมใจ จริงๆ ตั้งแต่มาถึงเพชรบูรณ์หมอกก็มาต้อนรับรอบตัวไปหมดแล้วครับ

เอาละได้เวลา Check-in ที่พักกันสักที ที่พักแรกของเราอยู่ที่ไปรษณีย์เขาค้อครับ พระเอกขี่ม้าขาวคนเดิมจองได้มาเป็นบ้าน 1 หลังมี 2 ห้องนอน 1 ห้องครัว 1 ห้องรับแขก 1 ห้องน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,100 บาท เรียกว่าพอถึงที่พักก็หาอาหารเย็นทานแล้วนอนเก็บแรงสำหรับไปลุยวันพรุ่งนี้ต่อครับ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าก่อนฟ้าสว่างเพื่อไปชมทะเลหมอกที่พระตำหนักเขาค้อครับ

ตื่นมาอย่างงัวเงีย ขึ้นรถตู้สักพักก็ลงเดิน แล้วคลำทางกันท่ามกลางแสงไฟฉายไม่กี่กระบอก พอท้องฟ้าเริ่มสว่างก็เห็นทะเลหมอกน้อยๆ ไหลล่องลอยไปตามลมอย่างช้าๆ จุดนี้สวยมากเห็นทั้งทะเลหมอก เมฆ ภูเขา และต้นสน เข้ากันอย่างลงตัว นั่งดูเพลินๆ ก็สว่างแล้ว จากนั้นพวกผมก็ย้อนไปจุดชมวิว หนาวนี้ที่เพชรบูรณ์กันต่อครับ พอไปถึงก็โอโห้กันเลย ทะเลหมอกมันไหลมาทางนี้นี่เอง

ถ่ายรูปกันสักพักก็รีบกลับไปที่พักไปรษณีย์เขาค้อ เพราะดูทรงแล้วทะเลหมอกน่าจะไปกองแถวๆ ที่พักแน่ๆ แล้วก็จริงดังคาด

ก็อิ่มเอมกับทะเลหมอกอลังการไปแล้วก็พอใจกันถ้วนหน้า จากนั้นก็ Check-out ที่พักแล้วออกเดินทางไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่นี่มีจุดเด่นคือพระอุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี และเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป บนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และบริเวณใต้ฐานเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน อย่างมากมายเลยครับ

จบนี้พวกผมก็เดินทางไปยังภูทับเบิก ที่พักที่จองไว้ก็คือ ทับเบิกฮิลล์ มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ รวมอาหารเช้า ที่พักอยู่บนไหล่เขาเลยเปิดหน้าต่างออกมาก็เจอทะเลหมอกเลย จะว่าไปทะเลหมอกตามพวกผมไปทุกที่จริงๆ เรียกว่าไม่ได้แค่มาดูอย่างเดียวล่ะ เรียกว่ามาอาบหมอก กินหมอกกันอย่างเพลิดเพลินจนเอียนกันไปข้างนึงเลยล่ะกัน ตอนเย็นก็แวะไปทานอาหารเย็นกันที่โรงเตี้ยม (ตอนนี้ถูกรื้อไปแล้วนะครับ) อาหารอร่อยมากๆ ครับ เสร็จแล้วก็พักผ่อน วันรุ่งขึ้นเตรียมไปจุดชมวิว ณ ลานดูดาว และจุดวัดอุณหภูมิ ที่ภูทับเบิกกันครับ

ฮ่าๆ หมอกเยอะสมใจ เลยไม่เห็นเป็นริ้วๆ สวยๆ เหมือนกับคนอื่น เรียกว่าทริปนี้เป็นทริปอาบหมอกจริงๆ ความเย็นสัมผัสไปทั่วรูขุมขน อุณหภูมิที่วัด ณ จุดชมวิว คือ 13 องศา เสื้อกันหนาวตัวเดียวกำลังสบายๆ เลยครับ เมื่อถ่ายรูปกันจนพอใจก็กลับไปทานอาหารเช้าและ Check-out ที่พักทีทับเบิกฮิลล์ แล้วไปแวะชมไร่กะหล่ำปลี ที่ถือว่าเป็นพืชเอกลักษณ์ประจำภูทับเบิกไปแล้วครับ

จากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังภูหินร่องกล้า ไปเดินชมพันธุ์ไม้กันต่อครับ ด้วยความชำนาญพี่คนขับพาเหินขึ้นเนินอันสูงชันนำพวกเราไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย ส่วนทะเลหมอกนั้นเหรอยังตามติดพวกเรามาไม่ห่างเลย ที่ภูหินร่องกล้าจึงเต็มไปด้วยหมอกที่มองไปทางไหนก็มีแต่หมอกๆๆๆ

ตรงนี้ก็ไม่มีอะไรมาก พวกผมเดินกันประมาณ 1-2 ชม. ถ่ายรูปจนแบตหมด แล้วผมลืมแบตเตอร์รี่สำรองไว้ที่รถด้วยสิ เลยไม่ได้รูปที่ไปพิชิตลานหินปุ่ม และผาชูธงเลย จากนั้นก็กลับมาทานอาหารกลางวันแล้วมุ่งหน้ากลับ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ เป็นอีกหนึ่งทริปที่สร้างความประทับใจและสร้างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นต่อไป เจอกันใหม่ทริปหน้าแล้วแพ็คกระเป๋าไปด้วยกันนะคร้าบ

ค่าใช้จ่าย

• ที่พักไปรษณีย์ เขาค้อ 1 คืน 2,100 บาท ตกคนละ 234 บาท
• ที่พักทับเบิกฮิลล์ 1 คืน 4,300 บาท ตกคนละ 478 บาท
• ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อาวุธ 10 บาท/คน
• ค่ารถตู้พร้อมคนขับ สำหรับ 3 วัน ทั้งหมด 6,400 บาท ตกคนละ 712 บาท
• ค่าน้ำมันประมาณ 4,500 บาท ตกคนละ 500 บาท
• ค่าอาหาร 7 มื้อ + ขนม ทั้งหมด 8,235 บาท ตกคนละ 915 บาท

รวมทั้งหมด 2,849 บาท/คน

อัลบั้มรูป