ฮอกไกโด หน้าหนาว ตอนที่ 1 – เมืองฮาโกดาเตะ

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เราจะตลุยหิมะกันตลอดทั้งทริป นั่นก็คือที่ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ๆ มีหิมะที่นุ่มที่สุด มีอากาศเย็นที่สุด และอาหารอร่อยสุดๆ

เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการถูกชวน เรียกว่าเป็นทริปสุดท้ายที่ถูกชวนล่ะกัน เพราะหลังจากทริปนี้ผมนี่ล่ะเป็นคนชวนคนอื่นตลอด ฮ่าๆๆ พอชวนปุ๊บ ผมก็ตกลงปั๊บ สมองสั่งการในทันทีว่า ถ้าไม่ได้ไปตอนนี้คงไม่มีโอกาสได้ไปอีกเป็นแน่แท้

พอตกลงกันเรียบร้อยก็เริ่มหาตั๋วไปลงนาริตะ ก็ได้ราคาโปรมารวมทุกอย่างไม่เกินหมื่นเป็นที่รับได้ เราไปก่อนเทศกาลหิมะสักอาทิตย์นึง เพราะจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวาย เพราะพวกผมชอบไปเที่ยวแบบสงบๆ คนไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญไม่ต้องไปแย่งกับใครด้วยครับ จากนั้นก็ลองดูของวนิลาแอร์เป็นสายการบินโลว์คอสของญี่ปุ่น คราวนี้เลือกแบบ flexible ไว้หน่อยเพราะฤดูหนาวจะมีพายุบ่อยมากทำให้สายการบินต้องหยุดบินบ่อยครั้ง ก็ได้เลยตั๋วธรรมดาแบบรวมทุกอย่างมาที่ 4 พันกว่าบาท ก็โอเคเบ็ดเสร็จค่าตั๋วไม่ถึง 15,000 บาท และได้แวะที่โตเกียวด้วย

ตะวันกำลังจะขึ้นต้อนรับพวกผม

ตะวันกำลังจะขึ้นต้อนรับพวกผม

เอาล่ะเริ่มเดินทางกันเลย เวลา 1.10 น. สายการบินแอร์เอเชียก็พาพวกผมทะยานขึ้นน่านฟ้า ณ ดอนเมือง นั่งหลับๆ ตื่นๆ ไม่ถึง 5 ชั่วโมงดีก็ถึงสนามบินนาริตะ เวลา 7.00 น. (เวลาไทยคือ 9.00 น.) กัปตันซิ่งมากจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง พอถึงก็นั่งรอต่อเครื่องไปสายการบินวนิลาแอร์ รอบ 10.30 น. แต่ข่าวร้ายของพวกผมก็คือทีสนามบินนิวชิโตเสะถูกพายุหิมะถล่มไม่สามารถทำการบินขึ้นลงได้ พวกผมก็เลยได้แต่นั่งรอนอนรอไปประมาณ 5 ชม. ถึงได้เริ่มเดินทางไปสนามบินนิวชิโตเสะต่อ ก่อนที่จะได้ขึ้นเครื่องพนักงานยังบอกอีกว่าถ้าบินลงสนามบินไม่ได้ ก็จะพากลับมาที่สนามบินนาริตะเหมือนเดิม แหม… ช่างบีบหัวใจให้ลุ้นระทึกจริงๆ ว่าจะได้ไปเที่ยวไหม และแพลนจะเสียไหมเนี่ย

Image00004

สถาพสนามบินนิวชิโตเสะ หลังจากถูกพายุหิมะถล่ม

แต่ก่อนผมก็ไม่คิดว่าการไปเที่ยวจะต้องพึ่งพาดวงมากๆ ดังนั้นใครที่โชคดีเรียกว่าไปหน้าฝนก็ฟ้าใส ไปหน้ามรสุมก็คลื่นลมสงบ นี่ไปหาหิมะก็คลาดแคล้ว ดังนั้นถ้าเราโชคดีก็จะได้เปรียบคนอื่นกว่าจริงๆ และแล้วโชคก็เข้าข้างผม พวกเราเดินทางมาถึงสนามบินนิวชิโตเสะเรียบร้อย กว่าจะเคลียร์กระเป๋าและซื้อบัตรโดยสารเสร็จก็เป็นเวลา 21.00 น. รถไฟด่วนรอบที่จะไปฮาโกดาเตะไม่มีแล้ว เหลือขบวนสุดท้ายเป็นรถไฟทางไกลวิ่งเรื่อยๆ จะไปถึงฮาโกดาเตะตอน 4.00 น. วันรุ่งขึ้น แถมยังถูกขู่อีกว่า ถ้าระหว่างทางเจอหิมะตกหนักๆ ก็อาจจะดีเลย์อีก ฮ่าๆ แต่พวกเราก็ไม่กลัวเพราะเป็นขบวนสุดท้ายแล้วนี่ ว่าแล้วเราก็ลุยโล้ดนั่งรถไฟยาวๆ 6 ชั่วโมงกันไปเรื่อยๆจริงๆ บรรยากาศสองข้างทางมืดสนิท กึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะไฟในตัวรถเปิดซะสว่างเลย และแล้วในที่สุดก็มาถึงสถานีฮาโกดาเตะตามเวลาเป๊ะ 4.00 น. รีบ check-in เข้าที่พักโรงแรม Loisir Hotel Hakodate ซึ่งโชคดีที่พวกผมจองไว้อยู่ติดสถานีฮาโกดาเตะเลย เพราะถ้าต้องนั่งรถไปอีกตอน 4.00 น. คงต้องแท๊กซี่อย่างเดียว จากนั้นรีบเคลียร์ทั้งข้าวของแล้วก็พักผ่อนกันทันที

บริเวณรอบๆ สถานีฮาโกดาเตะ

บริเวณรอบๆ สถานี JR ฮาโกดาเตะ

โอไฮโย ฮาโกดาเตะ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ดีใจมากๆ แพลนไม่เสียด้วย และการที่เราถูกรับน้องจากพายุหิมะไปเรียบร้อยก็ดีนะ ทำให้ตลอดทั้งทริปนับแต่นี้เจอแต่อากาศดีๆ ตลอดเลยครับ ว่าแล้วเราก็ไปลุยฮาโกดาเตะกันเลยคร้าบ การเดินทางวันนี้เราซื้อตั๋วเหมารถรางสำหรับ 1 วัน ราคา 600 เยน

รถรางที่เมืองฮาโกะดาเตะ

รถรางที่เมืองฮาโกดาเตะ

ที่แรกที่เราจะไปก็คือตลาดเช้าฮาโกดาเตะครับ ที่นี่มีอาหารสด ทุกอย่างสดและอร่อยมาก ได้มาดูการจับจ่ายใช้สอยของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน และพ่อค้าแม่ค้าที่เรียกเชิญชวนกันอย่างสนุกสนาน บางร้านนี่ถามว่าคนไทยใช่ไหมแล้วพูดภาษาไทยขายของพวกผมกันเลยทีเดียว

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ

อาหารสด ที่ตลาดฮาโกดาเตะ

จากนั้นก็นั่งรถรางต่อไปยังหอคอยโกเรียวคาคุ เป็นลักษณะป้อมรูปดาวหน้าแฉก หิมะเต็มไปหมดพวกผมก็เลยไม่ได้ขึ้นไปชมบนยอดหอคอยเพราะคงเห็นแต่หิมะเท่านั้น ภายในสวยงามมากๆ ยิ่งเห็นหิมะสุดลูกหูลูกตาอีก เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกนี่ล่ะ เดินเล่นกันสักพักก็ไปต่อ

หอคอยโกเรียวคาคุ

แผนผังภายในป้อมโกเรียวคาคุ

แผนผังภายในป้อมโกเรียวคาคุ

ลงรถรางแล้วก็ต้องเดินขึ้นเขาไปสักระยะ ระหว่างทางเราจะเจอโบสถ์รัสเซีย สร้างเพื่อให้คนรัสเซียที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้ใช้ทำพิธีทางศาสนา แล้วเราก็เดินกันต่อไปครับ

โบสถ์รัสเซีย

ในที่สุดก็มาถึงกระเช้า จัดแจงซื้อตั๋วไปกลับเรียบร้อย 1,200 เยน ตอนนี้เวลา 16.00 น. แล้วถือว่าโอเค เพราะจะได้เห็นวิวเมืองตอนมีแสงอาทิตย์และตอนไม่มีแสง ขึ้นไปถึงยอดเขาก็เดินถ่ายรูปเล่นกัน มีร้านอาหาร ร้านขนมให้ได้ทานเล่นรอเวลาด้วย

กระเช้าขึ้นยอดเขาฮาโกดาเตะ

ข้างบนอากาศเย็นกว่าข้างล่างมากๆ นะครับ ลมพัดหอบความเย็นกระแทกใบหน้าเป็นระยะๆ ดังนั้นเตรียมอุปกรณ์กันหนาวจัดเต็มทั้งผ้าพันคอ ถุงมือ หรือหาแผ่นร้อนแปะก็ได้ครับ อ่ะ.. เรามาชมวิวกันดีกว่า อากาศดีมากๆ ครับ ฟ้าเปิดสดใสทีเดียว

วิวจากยอดเขาฮาโกดาเตะ ยามเย็น

วิวจากยอดเขาฮาโกดาเตะ ตอนค่ำ

ตอนใกล้ค่ำนี่ทัวร์มาขึ้นลงกระเช้ากันเพียบเลย พวกผมต้องต่อคิวกันนาน 30 นาทีทีเดียวกว่าจะได้ลงมาข้างล่าง เสร็จแล้วก็เดินย้อนกลับไปยังรถรางที่เดิม ระหว่างเดินกลับแวะถ่ายรูปโบสถ์โมโตมาจินิดหน่อยพอเป็นพิธี ตอนกลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะ มีการเอาไฟมาประดับเป็นแสงสีสวยงามจริงๆ

โบสถ์โมโตมาจิ

เสร็จแล้วก็นั่งรถรางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม

ติดตามตอนที่ 2 ต่อที่นี่ ได้เลยครับ
ฮอกไกโด หน้าหนาว ตอนที่ 2 – เมืองนิเซโกะ

อัลบั้มรูป

Facebook Comments

You may also like...

0 Shares
Share
Tweet
Pin