เขาพะเนินทุ่ง ชมทะเลหมอก ส่องทางช้างเผือก ใกล้ๆ กรุง

Image00021

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ทริปนี้รวมสมาชิกได้ 7 คน แบ่งเป็นรถยนต์ 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน จุดนัดรวมพลจุดที่หนึ่งคือที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยาน คนละ 40 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท รถกระบะคันละ 40 บาท และค่าธรรมเนียมกางเต็นท์พักแรม 30 บาท/คน/คืน และยังแวะทานอาหารกลางวันกันที่นี่ได้เลยครับ

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน การเดินทางให้มุ่งหน้าไปยังจังหวัดเพชรบุรี จนมาถึงทางหลวงหมายเลข 3499 ให้ขับต่อไปเรื่อยๆ ตามป้าย อ.แก่งกระจาน หรือป้ายเขาพะเนินทุ่ง ประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงทางเข้าเขตอุทยานฯ ขับต่อไปเรื่อยๆ อีก 30 กิโลเมตร จะถึงจุดกางเต็นท์บ้านกร่าง ซึ่งจะเป็นจุดปล่อยรถขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่ง

เมื่อถึงจุดกางเต็นท์บ้านกร่างก็ให้จอดรถยนต์ไว้ที่นี่ได้เลย แล้วก็ย้ายทั้งคนและของจากรถยนต์ไปยังรถกระบะเพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาพะเนินทุ่งกัน เนื่องจากเขาพะเนินทุ่งสภาพถนนไม่ดี ชันและแคบ จึงต้องมีเวลาขึ้นลงเพื่อความปลอดภัย ได้แก่

  • ขึ้น เวลา 5.30- 07.30 น. และ 13.00 – 15.00 น.
  • ลง เวลา 9.00 – 10.00 น. และ 16.00 – 17.00 น.

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว ตั้งแต่ที่ 1 พฤศจิกายน – 31 กรกฏาคม ของทุกปี

Image00004

สภาพทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง

คราวนี้เราก็มุ่งหน้าขึ้นเขาพะเนินทุ่งกัน พวกผมแพลนกางเต็นท์บนเขา 1 คืน ดังนั้นจึงเลือกขึ้นตอน 13.00 น. และลง 9.00 น. ในวันถัดไป ส่วนใครที่จะมาแบบไปเช้าเย็นกลับก็สามารถทำได้แต่ต้องดูเวลาให้ดี ไฮไลท์ระหว่างทางก็คือฝูงผีเสื้อนับร้อยตัวบินว่อนกันฝูงใหญ่ พวกผมแวะจอดถ่ายรูปกันสักพักก็ลุยต่อ

Image00002

ฝูงผีเสื้ออลังการมาก

การขับรถขึ้นเขานี้ต้องมีความชำนาญมากเลยนะครับ เพราะถ้าพลาดนี่คือดิ่งลงเหวอย่างเดียว การเดินทางใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็ถึงจุดกางเต็นท์เขาพะเนินทุ่ง อากาศข้างบนถึงจะร้อนแต่ไม่อบอ้าวเลย

Image00005

จุดกางเต็นท์ เขาพะเนินทุ่ง

เมื่อมาถึงแล้วก็จัดการกางเต็นท์และเตรียมอาหารเย็น สักพักก็เห็นนกเงือกบินไปมาแถวๆ ลานกางเต็นท์เลย พวกผมก็ค่อยๆ ทยอยไปดู และก็ได้แต่ดูจริงๆ เพราะไกลเกินความสามารถของกล้องที่จะถ่ายรูปได้ เก็บภาพไว้ในใจพร้อมกับพึมพำ พะเนินทุ่งนี่มีป่าที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ

Image00006

หน้าตาอาหารเย็นที่ช่วยกันทำ

เมื่อทานอาหารเรียบร้อย ก็ไปยังจุดชมทะเลหมอกกิโลเมตรที่ 30 ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่กางเต็นท์สามารถเดินไปได้ครับ จุดนี้สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกด้วย และจุดนี้เองที่เราจะไปดูทางช้างเผือกกัน

Image00010

จุดชมวิว พะเนินทุ่ง กิโลเมตรที่ 30

ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว พวกผมจึงรีบไปอาบน้ำและหาเสื้อผ้าที่อบอุ่นใส่กัน เสร็จแล้วก็มีปาร์ตี้เล็กๆ นั่งคุยกันเงียบๆ หรือเปล่า? แล้วก็รีบเข้านอนเพื่อที่จะได้ตื่นมาดูทางช้างเผือกตอนตี 3

Image00013

ดาวตก กับทางช้างเผือก ณ ลานกางเต็นท์

Image00014

ทางช้างเผือก ณ จุดชมวิว เขาพะเนินทุ่ง กิโลเมตรที่ 30

ฟ้าเปิดทางช้างเผือกจึงโผล่มาให้เราได้ชมอย่างชัดเจน พวกผมได้เห็นดาวตกและยังสามารถเก็บภาพไว้ได้อีกด้วย ทริปนี้โชคดีจริงๆ หลังจากอิ่มเอมกับการเก็บภาพกันจนเช้า ก็เตรียมตัวไปจุดชมวิวกิโลเมตรที่ 36 ซึ่งเป็นจุดชมวิวจุดที่สอง การเดินทางไปจุดชมวิวนี้ต้องขับรถไปอีก 6 กิโลเมตร ควรรอให้ฟ้าสว่างก่อนแล้วค่อยขับไปนะครับ

Image00016

ทะเลหมอก ณ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 36

เมื่อชมทะเลหมอกเรียบร้อยก็กลับมาทำอาหารเช้าเป็นมาม่าใส่ผักและลูกชิ้น แล้วก็อาบน้ำอาบท่า เก็บเต็นท์เตรียมตัวลงเขาให้ทันรอบ 9.00 น. เอารถที่จุดกางเต็นท์บ้านกร่าง แวะถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นไม้นิดหน่อย และขับไปชมสะพานแขวนที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานปิดท้ายทริป เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Image00019

สะพานแขวน

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยาน คนละ 40 บาท
  • ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 30 บาท รถกระบะ 40 บาท ตกคนละ 70 / 7 = 10 บาท/คน
  • ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์พักแรม คนละ 30 บาท
  • เต็นท์ ถุงนอน แผ่นปูรองนอน นำไปเองฟรี
  • ค่าอาหาร 4 มื้อ น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว หารกันตกคนละ 320 บาท
  • ค่าน้ำมันรถยนต์ หารกันตกคนละ 500 บาท

รวมทั้งหมด 900 บาท/คน

อัลบั้มรูป

Facebook Comments

You may also like...

25 Shares
Share25
Tweet
Pin