โอซาก้า หน้าร้อน ตอนที่ 3 – เมืองเกียวโต

เช้านี้อากาศแจ่มใสจริงๆ พวกผมเก็บของกันเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน จัดแจงเก็บที่นอน ข้าวของเครื่องใช้ให้อยู่ในสภาพเดิมแล้วล๊อกห้อง นำกุญแจไปหยอดที่เมล์บ็อกซึ่งถือเป็นการ Check-out เรียบร้อย แล้วมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟใต้ดิน Namba (Subway) ฝากกระเป๋าที่ล๊อกเกอร์คนละ 500 เยน คราวนี้ก็พร้อมไปเที่ยวที่ต่อไปแล้ว หยิบบัตร Kansai Thru Pass พระเอกของเราแล้วไปด้วยกันเลย

Namba_Arashiyama

การเดินทางจากสถานี Namba (Subway) ไปยัง ป่าไผ่ Arashiyama

พวกผมเริ่มจากสถานี Namba (Subway) นั่งสายสีน้ำเงิน (Yotsubashi Line) ไปลงสถานี Umeda (Subway) แล้วเดินไปสถานี Umeda (Hankyu) นั่งสายสีน้ำตาล (Hankyu-Kyoto Line) ไปลงสถานี Kutsura แล้วต่อสายสีน้ำตาล (Hankyu-Arashiyama Line) ไปลงสถานี Arashiyama แล้วเดินชมวิวกันไปเรื่อยๆ จุดหมายคือป่าไผ่อะราชิยาม่า

Image00002

เดินเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยเลยเพราะวิวข้างทางช่างดีเหลือเกิน

Image00005

ไปตามแผนที่ Google Map เลย จะมีป้ายบอกให้เดินไปทาง Arashiyama Tram Station

ในที่สุดก็มาถึง พวกผมร้องโอ้โห.. กันเลยทีเดียว สวยงามมากๆ เพราะมาหน้านี้ป่าไผ่เลยเขียวชอุ่มสดชื่นดูสบายตามากๆ และคนไม่เยอะด้วย ไม่รอช้ารีบถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันเต็มที่เลย

Image00011

ป่าไผ่ Arashiyama ทางผ่านก่อนที่เราจะไปนั่งรถไฟสายโรแมนติก

Arashiyama_TruckSaga

การเดินทางจากป่าไผ่อะราชิยาม่า ไปยังสถานีรถไฟชมวิวสายโรแมนติก

รถไฟสายโรแมนติกจะพาเราชมวิวเลียบภูเขาและแม่น้ำ สองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ถ้าใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี่น่าจะฟินกว่าผมมากๆ

รถไฟซากาโน่สายโรแมนติก (Sagano Romantic Train) มีตารางวิ่ง ดังนี้

  • ออกจากสถานี Sagano เวลา 9:07, 10:07, 11:07, 12:07, 13:07, 14:07, 15:07, 16:07 และ 17:07
  • ออกจากสถานี Kameoka เวลา 9:35, 10:35, 11:35, 12:35, 13:35, 14:35, 15:35, 16:35 และ 17:35

ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 620 เยนต่อคน ใช้เวลาชมวิวประมาณ 30 นาที เปิดให้บริการระหว่าง 1 มีนาคม – 29 ธันวาคม และหยุดซ่อมบำรุงทุกวันพุธ (ยกเว้นพุธที่ตรงกับวันหยุดพิเศษของญี่ปุ่น)

Image00012

รถไฟสายโรแมนติก

รถไฟจะมาปล่อยเราไว้ที่สถานี Truck Kameoka สามารถซื้อของฝากน่ารักๆ เกี่ยวกับรถไฟได้ที่นี่ จากนั้นก็พากันเดินไปสถานี (JR) Umahori ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก นั่งสาย San-in Line ไปลงสถานี Emmachi อันนี้ต้องจ่ายเอง Kansai Thru Pass ไม่สามารถใช้ได้กับรถไฟของ JR คนละ 240 เยน แล้วต่อรถบัสสาย 204 หรือ 205 ไปลงที่หน้าวัดคินคะคุจิเลย สามารถใช้ Kansai Thru Pass ได้แล้ว

Umahori_Kinkakuji

การเดินทางจากรถไฟสายโรแมนติกสถานี Kameoka ไปยังวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji)

ถึงวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) มีค่าเข้าคนละ 400 เยน เอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือวัดสีทองกลางน้ำ แต่ก่อนเป็นที่พำนักของโชกุนโยชิมิซึ เมื่อท่านโชกุนเสียชีวิตจึงถูกบูรณะให้เป็นวัดแบบเซน และเปิดให้เข้าชมกัน

Image00018

วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง (Kinkakuji Temple)

เมื่อเดินกันคุ้มกับเงิน 400 เยนที่เสียไปก็เดินทางกันต่อไปยังศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ขึ้นรถบัสสาย 205 ไปลงสถานี Saiin นั่งรถไฟสายสีน้ำตาล (Hankyu-Kyoto Line) ไปยังสถานี Kawaramachi แล้วเดินนิดนึงไปยังสถานี Gion-Shijo นั่งรถไฟสายสีแดง (Keihan Line) ไปยังสถานี Fushimi-Inari เดินอีกนิดก็ถึงศาลเจ้าล่ะครับ สามารถใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้ทั้งหมดครับ

การเดินทางจากวัดคินคะคุจิ ไปยังศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

การเดินทางจากวัดคินคะคุจิ ไปยังศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากของเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหน ช่วงไหนคนก็จะเยอะตลอดเวลา พวกผมจะเรียกที่นี่ว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก หรือศาลเจ้าเสาแดง เพราะจุดเด่นของที่นี่ก็คือรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกซึ่งถือเป็นตัวแทนของเทพอินาริ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และภายในศาลเจ้านี้มีเสาแดงโทริอิ (Torii) ที่เรียงรายนับพันนับหมื่นต้นทั่วภูเขา จึงเป็นที่ที่นิยมมากันมาก

เสาแดงโทริอิ ที่เรียงรายนับพันต้น

เสาแดงโทริอิ ที่เรียงรายนับพันต้น

จบภารกิจก็มุ่งหน้ากลับโอซาก้ากัน เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่สถานีรถไฟใต้ดิน Namba การเดินทางกลับก็ให้ขึ้นจากสถานี Fushimi-Inari นั่งสายสีแดง (Keihan Line) ไปสถานี Gion-Shijo แล้วเดินนิดนึงไปสถานี Kawaramachi นั่งสายสีน้ำตาล (Hankyu-Kyoto Line) ยิงยาวไปลงสถานี Minamikata แล้วเดินไปสถานี Nishinakajimaminamigata นั่งสายสีแดง (Midosuji Line) ไปยังสถานี Namba (Subway) เอากระเป๋าที่ฝากไว้ออกมา

การเดินทางจากสถานี Kawaramachi ไปยังสถานี Namba (Subway)

การเดินทางจากสถานี Kawaramachi ไปยังสถานี Namba (Subway)

จากนั้นเดินไปสถานี Nankai-Namba ขึ้นสาย Nankai Line ไปยังสถานี Kansai Airport (สนามบินคันไซ) โดยใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้เหมือนเดิม

การเดินทางจากสถานี Nankai-Namba ไปยังสถานี Kansai-Airport (สนามบินคันไซ)

การเดินทางจากสถานี Nankai-Namba ไปยังสถานี Kansai-Airport (สนามบินคันไซ)

จากนั้นพวกผมก็เข้าไปใช้บริการ KIX Lounge ที่สนามบินคันไซ อาบน้ำอาบท่ากันให้สดชื่น คนละ 500 เยน ตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว ก็ออกมาทำพิธีผ่าน ตม. แล้วก็นอนรอนั่งรอเพื่อที่จะบินกลับ ทริปนี้ราบรื่นทุกประการไปได้ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด เป็นทริปที่กินอิ่ม นอนหลับ เที่ยวสบาย เต็มๆ 4 วัน ประทับใจตรงที่รวมทุกอย่างแล้วใช้งบไม่เกิน 15,000 บาท นี่แหละ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้ากับนายปักเป้านะคร้าบ

อัลบั้มรูป

Facebook Comments

You may also like...

26 Shares
Share26
Tweet
Pin