คาวาอีเจี้ยน โบรโม่ เซเมรุ ภารกิจปีนภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ

แพ็คกระเป๋าภูมิใจนำเสนอทริปปีนเขาแห่งปี คาวาอีเจี้ยน โบรโม่ เซเมรุ 6 วัน 5 คืน โดยแอร์เอเชียจัดโปรโมชั่น 0 บาท กัวลาลัมเปอร์-สุราบายา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการหาสมาชิกจนได้ทั้งหมด 6 คน จองตั๋วไปกลับเรียบร้อย 10-15 เมษายน จากนั้นก็มาดูตั๋วไปกัวลาลัมเปอร์กันต่อ โดยสมาชิกอยากไปเที่ยวมาเลเซียด้วย เพราะไหนๆ ก็ไปต่อเครื่องอยู่แล้ว จึงได้ตั๋วโปร Final Call ไปกลับ ดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 8-16 เมษายน เบ็ดเสร็จได้เที่ยวมาเลเซีย 4 วัน 3 คืน ดังนั้นทริปเดียวเที่ยว 2 ประเทศนี้ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 9 วัน 8 คืน สมาชิกแฮปปี้มากๆ ที่ได้ตั๋วโปรและลางานกันเพียง 3 วัน

เดือนที่เหมาะกับการไปปีนภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน โบรโม่ และเซเมรุ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน ช่วงต้นหรือปลายฤดูกาลยังมีโอกาสเจอมรสุมอยู่ ถ้าใครไม่อยากลุ้นแนะนำให้เลื่อนไปช่วงพฤษภาคม-ตุลาคม นะครับ แต่ก็อีกนั่นแหละ… ด้วยความที่เป็นมนุษย์เงินเดือนจึงไม่สามารถลางานได้หลายวัน ทริปนี้เลยต้องลุ้นกันตั้งแต่การจองตั๋วให้ได้ในช่วงสงกรานต์ และค่อยมาลุ้นว่าจะเจอหางมรสุมอีกมั้ยตอนไปเที่ยว ฮ่าๆ

แพลนทริป

วันที่ 1 บินไปลงสนามบิน KLIA2 / นั่งแอร์พอร์ตบัสไปเกนติ้ง / นั่งเคเบิ้ลคาร์ / เดินเที่ยวเกนติ้ง
วันที่ 2 วัด Chin Swee / นั่งรถบัสไป KL Sentral / ถ้ำบาตู / น้ำพุเต้นระบำ / ตึกแฝด
วันที่ 3 บินไปลงสนามบินจูอันดา / นั่งรถตู้ไปคาวาอีเจี้ยน
วันที่ 4 ปากปล่องคาวาอีเจี้ยน / น้ำตกมาดาคาริปุระ / หมู่บ้าน Cemoro Lawang
วันที่ 5 จุดชมวิว Penanjakan / ปากปล่องโบรโม่ / ทุ่งหญ้าสะวันนา / หมู่บ้าน Ranu Pane / ทะเลสาบ Regulo
วันที่ 6 ทะเลสาบ Kumbolo / ทุ่งลาเวนเดอร์ Oro-Oro Ombo / เดินกลับหมู่บ้าน Ranu Pane
วันที่ 7 นั่งรถจิ๊บกลับหมู่บ้าน Cemoro Lawang / นั่งรถตู้กลับสุราบายา / เดินช็อปปิ้งแถวที่พัก
วันที่ 8 บินไปลงสนามบิน KLIA2 / นั่งรถตู้ไปย่านเซปัง / เดินช็อปปิ้งแถวที่พัก
วันที่ 9 นั่งรถตู้ไปสนามบิน / บินกลับสนามบินดอนเมือง

ตะลอนเที่ยว

เคเบิ้ลคาร์ (Awana Skyway)

เคเบิ้ลคาร์ (Awana Skyway)

เคเบิ้ลคาร์เป็นพาหนะยอดฮิตในการขึ้นลงเกนติ้ง เราจะได้ชมวิวมุมสูงที่สวยงามเป็นระยะเวลา 20 นาที โดยเคเบิ้ลคาร์ที่เปิดให้บริการในช่วงที่ผมไปเป็นของ Awana Skyway จะแวะได้ 2 จุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม คือ วัด Chin Swee และที่ Genting เพื่อนๆ อย่าเพลินกับวิวและสายหมอกจนลืมแวะที่วัดจีน Chin Swee นะครับ

Sky Avenue

Sky Avenue

Sky Avenue คือจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อกับโรงแรม คาสิโน โรงภาพยนต์ สวนสนุกธีมพาร์ค ร้านช็อปปิ้ง ร้านอาหาร เคเบิ้ลคาร์ และอื่นๆ มากมาย เรียกว่ายกทุกอย่างมาไว้ที่นี่อย่างครบครัน

วัดชินสวี (Chin Swee Temple)

วัดชินสวี (Chin Swee Temple)

เป็นวัดจีนที่มีสวยงามมากตั้งอยู่ระหว่างกึ่งกลางทางไปเกนติ้ง เราจะเห็นเจดีย์สูงเด่นตระหง่านขณะที่นั่งเคเบิ้ลคาร์ โดยเฉพาะผู้ที่นั่งเคเบิ้ลคาร์ของ Awana Skyway เราจะสามารถแวะชมความงดงามของวัด Chin Swee ได้โดยไม่เสียค่าเข้าออกจากสถานีเพิ่ม และยังสะดวกสบายเพราะมีบันไดเลื่อนพาลงไปยังพื้นที่ของวัดด้วยครับ

ถ้ำบาตู (Batu Caves)

ถ้ำบาตู (Batu Caves)

ถ้ำหินปูนขนาดมหึมา บริเวณหน้าปากถ้ำจะมีรูปปั้นของเทพฮินดูขนาดใหญ่ตั้งอยู่ โดยเราจะต้องเดินขึ้นบันได 272 ขั้น เพื่อเข้าไปชมภายในถ้ำ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศานาฮินดู

น้ำพุเต้นระบำ (Lake Symphony)

น้ำพุเต้นระบำ (Lake Symphony)

ในยามค่ำคืนเราสามารถมาชมน้ำพุเต้นระบำประกอบแสงสีเสียงบริเวณ KLCC Shopping Centre ได้ จุดนี้เราจะมองเห็นตึกแฝด Pretronas อันมีชื่อเสียงของมาเลเซียได้ด้วย

ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower)

ตึกแฝดปิโตรนาส

ตึกแฝดปิโตรนาส ได้แรงบันดาลใจในการสร้างจากสถาปัตยกรรมรูปทรงเรขาคณิต มีทั้งหมด 88 ชั้น เป็นตึกคู่ที่สูงที่สุดในโลก มีสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ตึก ที่ชั้น 41 และ 42 เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะต้องมารับตั๋วในตอนเช้า

ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน (Kawah Ijen)

ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน (Mt.Kawah Ijen)

ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนมีความสูง 2,380 เมตร ผู้คนนิยมมาดูเปลวไฟสีน้ำเงิน (Blue Flame) ซึ่งต้องมาดูก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลสาบสีฟ้า (ฺBlue Lake) ที่มีสีสันสวยงามจากกรดกำมะถันหรือกรดซัลฟิวริก สำคัญมากคือหน้ากากกันแก๊สพิษ เพราะควันจากภูเขาไฟทั้งฉุนและแสบตา ยิ่งถ้าหายใจเข้าไปนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ

น้ำตกมาดาคาริปุระ (Madakaripura Waterfall)

น้ำตก Madakaripura

เป็นน้ำตกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งเกาะชวาตะวันออก มีความสูง 200 เมตร โดยเราจะต้องนั่งมอเตอร์ไซต์และเดินเท้าต่อเพื่อเข้าไปชมจุดที่สวยที่สุดของน้ำตก เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วยนะครับ

จุดชมวิวพีนันจากัน (Penanjakan Viewpoint)

จุดชมวิว Penanjakan

รถจิ๊บจะพาเราเดินทางออกจากที่พักตอนตี 3 เพื่อไปยังจุดชมวิว Penanjakan เราจะได้เห็นแสงแรกของวันที่นี่ และจากจุดนี้เราจะได้เห็นภูเขาไฟโบรโม่ ภูเขาไฟบาต๊อก และภูเขาไฟเซเมรุอย่างชัดเจน ข้างบนก่อนฟ้าสว่างอุณหภูมิจะประมาณ 4-6 องศา ดังนั้นเสื้อกันหนาวสำคัญมากเลยนะครับ

ภูเขาไฟโบรโม่ (Mt.Bromo)

ภูเขาไฟโบรโม่ (Mt.Bromo)

หลังจากชมวิวที่ยอดเขา Penanjakan แล้ว รถจิ๊บจะพาไปยังจุดจอดรถด้านล่างเพื่อให้เราเดินหรือขี่ม้าไปชมปากปล่องภูเขาไฟ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพราะด้วยความที่เป็นภูเขาไฟที่ไม่สูง และที่ตีนภูเขาถึงปากปล่องมีบันไดให้เดินขึ้นลงได้อย่างสะดวก ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก เมื่อขึ้นไปแล้วตรงบริเวณปากปล่องทางจะแคบและอันตราย ดังนั้นต้องใช้ความระมัดระวังมากเลยนะครับ

ทุ่งหญ้าสะวันน่า (Savana)

ทุ่งหญ้าสะวันน่า (Savana)

หลังจากขึ้นไปดูปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่แล้ว ใครที่ซื้อทัวร์เพิ่มเติมไว้ รถจิ๊บจะพาไปแวะที่ทุ่งหญ้าสะวันน่า (ทุ่งหญ้าเขตร้อน) ลักษณะภูมิประเทศมีหุบเขาโอบล้อมรอบทุกด้าน มองไปทางไหนก็จะเจอแต่ทุ่งหญ้าสีเขียวสดชื่น

ทะเลสาบเรนูเรกูโล (Ranu Regulo Lake)

ทะเลสาบเรกูโล (Regulo Lake)

ทะเลสาบนี้อยู่ไม่ไกลจากจากหมู่บ้าน Ranu Pane ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 20 นาที ถ้าโชคดีเราจะได้เจอสายหมอกไหลไปมาอยู่เหนือน้ำ แนะนำให้มากับกลุ่มเพื่อนเพราะบริเวณนี้เงียบสงบมากจนเปลี่ยวเลยครับ

ทะเลสาบคัมโบโล (Kumbolo Lake)

ทะเลสาบคัมโบโล (Kumbolo Lake)

ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก สีน้ำเป็นสีเขียวยิ่งสะท้อนกับแสงแดดแล้วยิ่งน่ามอง บริเวณนี้จะใช้เป็นที่พักกางเต็นท์ หรือรับประทานอาหารระหว่างการเดินทางไปพิชิตยอดเขาเซเมรุ โดยเราจะต้องเดินเป็นระยะทาง 9.5 กิโลเมตร เพื่อมาถึงทะเลสาบคัมโบโล

ทุ่งลาเวนเดอร์ Oro-Oro Ombo

ทุ่งลาเวนเดอร์ Oro-Oro Ombo

เมื่อเดินข้ามเขาหนึ่งลูกซึ่งอยู่ถัดจากทะเลสาบคัมโบโล เราจะได้พบกับทุ่งดอกลาเวนเดอร์ บริเวณออโร ออโร ออมโบะ (Oro-Oro Ombo) จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟเซเมรุได้อย่างชัดเจนด้วยครับ

ภูเขาไฟเซเมรุ (Mt.Semeru)

ภูเขาไฟเซเมรุ (Mt.Semeru)

ภูเขาไฟเซเมรุสูง 3,676 เมตร เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาะชวา สามารถปีนขึ้นไปบริเวณยอดเขาได้ ซึ่งการพิชิตต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน ลักษณะการพ่นควันจะออกมาเป็นก้อน แตกต่างจากคาวาอีเจี้ยนและโบรโม่ที่พ่นควันออกมาตลอดเวลา

 

การเดินทาง

  1. ภารกิจปีนภูเขาไฟ ตอนที่ 1 – เกนติ้ง กัวลาลัมเปอร์
  2. ภารกิจปีนภูเขาไฟ ตอนที่ 2 – คาวาอีเจี้ยน โบรโม่
  3. ภารกิจปีนภูเขาไฟ ตอนที่ 3 – เซเมรุ เรนูคัมโบโล

ค่าใช้จ่าย

  • ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง-กัวลาลัมเปอร์ 2,453 บาท/คน
  • ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กัวลาลัมเปอร์-สุราบายา 943 บาท/คน
  • ค่าโหลดกระเป๋าทั้งหมด 1,842 บาท ตกคนละ 307 บาท
  • ค่าอาหารบนเครื่องบิน 2 มื้อ 164 บาท/คน
  • ที่พัก First World Hotel 1 คืน ทั้งหมด 2,166 บาท ตกคนละ 361 บาท
  • ที่พัก Bullockart Hostel 1 คืน รวมอาหารเช้า ทั้งหมด 168 MYR ตกคนละ 222 บาท (28 MYR)
  • ที่พัก Bromo Permai 1 คืน รวมอาหารเช้า ทั้งหมด 4,534 บาท ตกคนละ 756 บาท
  • ที่พัก Tasrif Homestay รวมอาหารเช้า 2 คืน ทั้งหมด 1,020,000 IDR ตกคนละ 451 บาท (170,000 IDR)
  • ที่พัก Hotel Sinar I รวมอาหารเช้า 1 คืน ทั้งหมด 750,000 IDR ตกคนละ 332 บาท (125,000 IDR)
  • ที่พัก Sri Packer Hotel รวมอาหารเช้า 1 คืน ทั้งหมด 1431 บาท ตกคนละ 239 บาท
  • ค่ารถแอร์พอร์ตบัส สนามบินกัวลาลัมเปอร์-เกนติ้ง 277 บาท/คน (35 MYR)
  • ค่าเคเบิ้ลคาร์ เกนติ้ง ไปกลับ 127 บาท/คน (16 MYR)
  • ค่ารถบัสเข้าเมือง เกนติ้ง-Padu Sentral 37 บาท/คน (4.6 MYR)
  • ค่ารถไฟไปกลับ KL Sentral-ถ้ำบาตู 41 บาท/คน (5.2 MYR)
  • ค่ารถไฟไปกลับ KL Sentral-ตึกแฝดปิโตรนาส 38 บาท/คน (4.8 MYR)
  • ค่ารถบัส KL Sentral-สนามบิน KLIA2 95 บาท/คน (12 MYR)
  • ค่ารถไฟอื่นๆ ในมาเลเซีย 13 บาท/คน  (1.6 MYR)
  • ค่ารถตู้ไปกลับ Sri Packer Hotel-สนามบิน KLIA2 คนละ 174 บาท (22 MYR)
  • ซิมอินเตอร์เน็ต simPATI 2 GB อินโดนีเซีย 120 บาท/คน (45,000 IDR)
  • ซิมโทรศัพท์ มาเลเซีย 1 ซิม ทั้งหมด 8.5 MYR ตกคนละ 12 บาท (1.5 MYR)
  • ค่าแพ็คเกจทัวร์กับ Arif ทั้งหมด 10,000,000 IDR ตกคนละ 4,417 บาท (1,667,000 IDR)
  • ค่าใบรับรองสุขภาพ 53 บาท/คน (20,000 IDR)
  • ค่าเข้าอุทยานเซเมรุ 557 บาท/คน (210,000 IDR)
  • ค่าลูกหาบแบบ 1 วัน ไปเช้าเย็นกลับ 300,000 IDR ตกคนละ 133 บาท (50,000 IDR)
  • ค่าทิปไกด์ตลอดทริป ทั้งหมด 350,000 IDR ตกคนละ 155 บาท (59,000 IDR)
  • ค่าอาหาร 7 มื้อ ที่มาเลเซีย 516 บาท/คน (65.3 MYR)
  • ค่าอาหาร 10 มื้อ ที่อินโดนีเซีย 854 บาท/คน (322,000 IDR)

รวมทั้งหมด 13,847 บาท/คน

อัลบั้มรูป

Facebook Comments

You may also like...

38 Shares
Share38
Tweet
Pin